วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สพฐ.ดีเดย์ประมูลคอม1.4แสนยูนิต จุดพลุปลายปีค่ายยักษ์รุมทึ้ง"ล็อกซเล่ย์"โดดร่วมวง

ตลาดไอทีคึกคักส่งท้ายปี โรงเรียนในสังกัด สพฐ. 7,767 แห่ง เดินหน้าประมูลจัดซื้อคอมพิวเตอร์กว่า 1.4 แสนเครื่อง หลัง สพฐ.มีคำสั่งให้แต่ละโรงเรียนดำเนินการจัดซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนมูลค่า 7,949 ล้านบาท เผยช่วยกระตุ้นตลาดช่วงกำลังซื้อจากคอนซูเมอร์เริ่มนิ่ง วงในชี้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์วิ่งฝุ่นตลบ จับมือผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งเอสวีโอเอ-ล็อกซเล่ย์-สงขลาฟินิชชิ่ง-ดีคอมฯและสุพรีม


แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทาง สพฐ.ได้ออก คำสั่งให้โรงเรียนในสังกัด 7,767 แห่ง ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการเรียนการสอนตามโครงการงบฯไทยเข้มแข็งแล้ว ตั้งแต่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้บางโรงเรียนได้เริ่มดำเนินการสอบราคาแล้ว ทั้งนี้คาดว่าช่วงต้นเดือนธันวาคมจะเริ่มเห็นโรงเรียนต่าง ๆ ออกประกาศเชิญชวนประกวดราคากันอย่างคึกคัก เนื่องจากการประมูลของ สพฐ.เป็นการกระจายให้โรงเรียนแต่ละแห่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเอง ไม่ได้จัดซื้อจากส่วนกลาง ทำให้การจัดการขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละโรงเรียน

สำหรับในปีงบประมาณ 2553 จะมีการกระจายงบประมาณให้กับ 7,767 โรงเรียน ด้วยงบประมาณ 7,949 ล้านบาท โดยจะเป็นส่วนของคอมพิวเตอร์ทั้งพีซีตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก 3,423 ล้านบาท จำนวนกว่า 1.4 แสนเครื่อง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ 1,800 ล้านบาท คอมพิวเตอร์สำหรับห้องสมุดอีก 500 ล้านบาท ซอฟต์แวร์ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโปรเจ็กเตอร์ พรินเตอร์ อุปกรณ์โต๊ะเก้าอี้ และอื่น ๆ

นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรีม ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตพีซีแบรนด์ไทย "DTK" กล่าวว่า การประกาศจัดซื้อจัดจ้างของโรงเรียนต่าง ๆ คาดว่าจะมีการประกวดราคาอย่างคึกคักในช่วงเดือนธันวาคม 2552-มกราคม 2553 โดยขณะนี้แต่ละ โรงเรียนอยู่ระหว่างทำเอกสารประกาศประกวดราคา ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดได้ดีในจังหวะที่ตลาดคอนซูเมอร์ค่อนข้างเงียบ ซึ่งแม้ว่าตลาดจะยังมีกำลังซื้อแต่เนื่องจากงานคอมมาร์ตที่ผ่านมาทำให้สแตนดาร์ดราคาปรับลดลงมามาก ทำให้การทำตลาดในกลุ่มคอนซูเมอร์ของผู้ประกอบการไม่ค่อยมีกำไร

ขณะนี้ทุกบริษัทต่างให้ความสนใจกับการเข้าประมูลโครงการคอมพิวเตอร์โรงเรียนของ สพฐ.อย่างมาก โดยผู้ค้ารายใหญ่ก็เตรียมพร้อมในการจับคู่กับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทั้งอินเตอร์แบรนด์และโลคอลแบรนด์ โดยในส่วนของโลคอลแบรนด์ส่วนใหญ่ก็จะเข้าไปในส่วนของพีซีตั้งโต๊ะ แต่ถ้าเป็นเครื่องโน้ตบุ๊กจะเป็นเวทีของอินเตอร์ แบรนด์เป็นหลัก

นายภานุวัฒน์กล่าวว่า สำหรับใน ส่วนของสุพรีมฯเตรียมพร้อมเข้าประมูลโปรเจ็กต์ของ สพฐ.เช่นกัน โดยในส่วนของพีซีตั้งโต๊ะใช้แบรนด์ DTK ของบริษัท ส่วน โน้ตบุ๊กจะใช้ผลิตภัณฑ์ของโตชิบาเป็นหลัก และเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เป็นพันธมิตรกับไอบีเอ็มและเอ็มพีพี

โดยราคากลางของพีซีเดสก์ทอปอยู่ที่ประมาณ 16,860 บาท และโน้ตบุ๊ก 20,000 บาท นายภานุวัฒน์กล่าวว่า โครงการนี้นอกจากการแข่งขันกันที่ราคาแล้ว ก็คือการจัดการและความพร้อมของผู้เข้าประมูลแต่ละราย เพราะการประมูลเป็นการกระจายจัดซื้อของแต่ละโรงเรียน อย่างไรก็ตามนอกจากโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของตลาดในช่วงปลายปีจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าแล้ว คาดว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างฐานตลาดใหม่ให้เติบโตมากขึ้นด้วย

แหล่งข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีศักยภาพในการเข้าประมูลแบบทั่วประเทศอยู่ 5-6 ราย ได้แก่ บริษัทสุพรีมฯที่ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดการศึกษา รวมถึงบริษัท เอสวีโอเอ ที่จับมือเป็นพันธมิตรกับเดลล์ในการเข้าประมูล บริษัทดีคอมที่ร่วมมือกับเอเทค คอมพิวเตอร์ ขณะที่บริษัท สงขลาฟินิชชิ่ง เจ้าตลาดกระทรวงศึกษาฯอีกรายจับมือกับทางเอเซอร์ นอกจากนี้ยังมีบริษัท ล็อกซเล่ย์ ที่เข้าร่วมแต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าจับมือกับผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายไหน และเชื่อว่าจะมีรายเล็ก ๆ ที่เข้าร่วม ประมูลในแต่ละพื้นที่อีกนับ 10 รายเช่นกัน

ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจองค์กร บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เลอโนโวได้ร่วมมือกับบริษัทสุพรีมเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายพีซีเดสก์ทอปและโน้ตบุ๊กในการเข้าประมูลโปรเจ็กต์ สพฐ. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เลอโนโวเข้าร่วมโครงการของ สพฐ. ทั้งนี้เลอโนโวไม่ได้คาดหวังในแง่ยอดขายมากนักเพราะราคาประมูลค่อนข้างต่ำ แต่ที่เข้าร่วมประมูลเพราะต้องการดูเทรนด์ของตลาด รวมถึงเป็นการสร้างแบรนด์ เลอโนโวในตลาดราชการมากขึ้น

ที่มา: http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02com01301152§ionid=0209&day=2009-11-30

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น